แพทย์ทหารเตือน ไข้หวัดใหญ่ใกล้ตัว แนะประชาชนดูแลสุขภาพ

จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือน โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่พบมากในช่วงอากาศชื้นและเย็น ช่วงนี้ประเทศไทยมีฝนตกในหลายพื้นที่ ทำให้พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือ กลุ่มอายุ ๕ ๘๒๑๑; ๙ ปี รองลงมา ๐ ๘๒๑๑; ๔ ปี สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อได้ง่ายจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง (น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ) ของผู้ป่วยผ่านการไอหรือจาม อาการของโรคจะคล้ายไข้หวัด แต่จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อมาก ปวดศีรษะ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก และอ่อนเพลีย จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่อย่างต่อเนื่อง

ในการนี้ พลโท วรเทพ บุญญะ แม่ทัพภาคที่ ๓/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ ๓ และแพทย์ทหาร จึงมีความห่วงใยต่อข้าราชการทหารและครอบครัว ในสังกัดกองทัพภาคที่ ๓ รวมทั้งพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ ๑๗ จังหวัดภาคเหนือ ต่อโรคภัยดังกล่าว จึงขอให้ปฏิบัติตามมาตรการ ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด ปิด คือปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม หากเจ็บป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ ควรใส่หน้ากากอนามัย ล้าง คือล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่เมื่อสัมผัสสิ่งของร่วมกัน เลี่ยง คือหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือไปในสถานที่แออัด และหยุด คือเมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรม แม้ผู้ป่วยจะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ ย้ำ ๗ กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ควรได้รับวัคซีน ได้แก่ ๑) หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ ๔ เดือนขึ้นไป ๒) เด็กอายุ ๖ เดือน ถึง ๒ ปี ๓) ผู้มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน ๔) ผู้สูงอายุ ๖๕ ปีขึ้นไป ๕) ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ๖) โรคธาลัสซีเมีย และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งรวมผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ และ ๗) โรคอ้วน คือผู้ ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า ๑๐๐ กิโลกรัม หรือมีดัชนีมวลกายมากกว่า ๓๕ กิโลกรัมต่อตารางเมตร ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ปีละ ๑ ครั้ง ช่วยลดความรุนแรงของโรค และลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยได้ ทั้งนี้หากมีอาการป่วยให้รีบพาไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม โดยสามารถเข้ารับบริการได้ที่โรงพยาบาลทหารทั้ง ๑๐ แห่งในพื้นที่ภาคเหนือ

จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชน ในพื้นที่ ๑๗ จังหวัดภาคเหนือทราบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า กองทัพภาคที่ ๓ โดย โรงพยาบาลทหารทั้ง ๑๐ แห่งในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤตทุกโอกาส.