รวบหัวโจกตัวสั่งการแก๊งต่างด้าวเถื่อน ทำมา ๒ ปี พบเงินหมุนเวียนกว่า ๑๐๐ ล้านบาท

เผยแพร่เมื่อ ๒๒/๑๐/๒๐๒๕ ๐๕:๔๒

รวบหัวโจกตัวสั่งการแก๊งต่างด้าวเถื่อน ทำมา ๒ ปี พบเงินหมุนเวียนกว่า ๑๐๐ ล้านบาท

ตม.สมุทรสาคร ตามรวบหัวโจกตัวสั่งการขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเถื่อน ทำมา ๒ ปี พบเงินหมุนเวียนกว่า ๑๐๐ ล้านบาท

class=wp-image-46871

วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสาคร ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ปกฉัตร ชัยสุกวัฒน์ ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.ท.เศรษฐพงศ์ ชูเมือง รอง ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.ต.จิรายุ เชิดฉาย สว.ตม.จว.สมุทรสาคร
พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาหัวหน้าขบวนการขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย หลังขยายผล ออกหมายจับเพิ่มอีก ๒ ราย พบเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า ๑๐๐ ล้านบาท

พ.ต.อ.ปกฉัตรฯ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปชก.ตร. ที่ได้สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.๓, พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.๓
เร่งกวดขันและปราบปรามคนต่างด้าวที่กระทำผิดกฎหมาย รวมถึงกลุ่มที่รวมตัวสร้างอิทธิพลในพื้นที่

สืบเนื่องจากการสืบสวนขยายผลเครือข่ายลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายของเจ้าหน้าที่ ตม.จว.สมุทรสาคร พบว่าผู้ต้องหา ทั้ง ๒ รายนี้ เป็นตัวการสำคัญในการช่วยเหลือ สั่งการขบวนการขนแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จากแนวชายแดนภาคเหนือตอนล่าง เพื่อเข้ามาทำงานในพื้นที่ชั้นใน และมีการรวมกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงเพื่อติดต่อประสาน และ ใช้ช่องทางสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆในการหาลูกค้า จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับผู้ต้องหา จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ที่ชายแดนไทย เมียนมา อ.แม่สอด จ.ตาก โดยมีรายละเอียดดังนี้

๑.นายสมชาย อายุ ๒๖ ปี สัญชาติไทย ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ ๓๕๗/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๒๐ ต.ค.๖๘

๒.MR.SAW KHIN E อายุ ๓๑ ปีสัญชาติเมียนมา ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ ๓๕๘/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๒๐ ต.ค.๖๘

ในข้อหา ร่วมกันโดยรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ คนต่างด้าวนั้น พ้นจากการจับกุม

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป