จังหวัดสุโขทัยประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี ๒๕๖๘ ติดตามสถานการณ์น้ำและการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

เผยแพร่เมื่อ ๒๘/๐๘/๒๐๒๕ ๑๗:๒๑

จังหวัดสุโขทัยประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี ๒๕๖๘ ติดตามสถานการณ์น้ำและการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

จังหวัดสุโขทัยประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี ๒๕๖๘ ติดตามสถานการณ์น้ำและการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

วันนี้ (๒๘ สิหาคม ๒๕๖๘) เวลา ๑๔.๐๐ น. ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสุโขทัย ชั้น ๒ ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย (หลังเก่า) นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานการประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี ๒๕๖๘ โดยมี นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายสมพงศ์ ชมชัย นายอำเภอเมืองสุโขทัย นายพล เชื้อทหาร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

โดยที่ประชุมได้สรุปสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดสุโขทัย วันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๘ จากอิทธิพลของพายุ “คาจิกิ” ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมปริมาณแม่น้ำยมจากจังหวัดแพร่ไหลเข้าพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ส่งผลให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ อำเภอศรีสัชนาลัย หมู่ ๔, หมู่ ๑๔ และหมู่ ๒๔ ตำบลแม่สิน หมู่ ๖ ตำบลศรีสัชนาลัย ตลิ่งทรุดใกล้บ้านเรือนประชาชน / อำเภอเมืองสุโขทัย จุดเฟื่องฟ้า ชุมชนคูหาสุวรรณ น้ำจากแม่น้ำยมลอดผนังกั้นน้ำที่ (จุดเดิม) วัดระดับน้ำได้ประมาณ ๖๐ ซม. น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ประมาณ ๓๐๐ หลังคาเรือน หมู่ที่ ๔ ตำบลปากแคว (หลังวัดปากแคว) (จุดเดิม) น้ำล้นข้ามพนังกั้นน้ำแม่น้ำยม หมู่ที่ ๑ ตำบลยางซ้าย น้ำไหลซึมผ่านกระสอบทราย / อำเภอสวรรคโลก หมู่ที่ ๑ และ ๒ ตำบลคลองยาง คันคลองยมน่าน (จุดเดิม) ทำให้น้ำล้นคันเข้าพื้นที่การเกษตรบางส่วน / อำเภอศรีนคร หมู่ที่ ๘ ตำบลคลองมะพลับ (จุดเดิม) คลองน้ำไหลเอ่อล้นคันดิน เป็นระยะทางประมาณ ๔๐๐ หมู่ที่ ๕ ตำบลศรีนคร อำเภอศรีนคร น้ำเริ่มเซาะคันดิน / อำเภอศรีสำโรง หมู่ที่ ๖ ตำบลวังใหญ่ (จุดเดิม) น้ำลอดสะพานสิริปัญญารัต

ทั้งนี้ นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเต็มกำลัง เร่งดำเนินการป้องกันในจุดเสี่ยงและแก้ไขในจุดที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำและเฝ้าระวังตลอด ๒๔ ชั่วโมง