เจ้าหน้าที่ขยายผล จับกุมผู้ต้องสงสัย ๒ ราย
จากกรณีเหตุการณ์ เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๒๐.๒๐ น. ได้เกิดเหตุคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในรถยนต์เก๋งมาจอดไว้บริเวณหน้าร้านเฟอร์นิเจอร์ห่างจากฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลศาลาใหม่ ตำบลศาลาใหม่ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ประมาณ ๑๐ เมตร จากนั้นปล่อยให้รถยนต์ดังกล่าวไหลไปชนกระสอบทรายหน้าฐานปฏิบัติการฯ ก่อนจะจุดชนวนระเบิดขึ้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ติดตามและขยายผลจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย โดยเมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. หน่วยเฉพาะกิจกรมมทหารพรานที่ ๔๕ ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดนราธิวาส , กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าบังคับใช้กฎหมาย ในพื้นที่ อำเภอระแงะ จำนวน ๒ แห่ง ดังนี้.-
๑. บ้านเลขที่ ๔๕ ตำบลตันหยงลิมอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัย คือ นายต่วนซูไฮมี (สงวนนามสกุล) อายุ ๓๑ ปี อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว
๒. บ้านเลขที่ ๗๙/๗ ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัย คือ นายลูกมัน (สงวนนามสกุล) อายุ ๒๓ ปี พร้อมด้วยวัตถุพยาน จำนวน ๑๔ รายการ
ต่อมาเวลา ๐๕.๓๐ น. เจ้าหน้าที่ได้นำตัวบุคคลผู้ต้องสงสัยทั้ง ๒ ราย มายังกองบังคับการ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ ๔๕ เพื่อดำเนินการซักถามตามกระบวนการของกฎหมาย ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อำเภอระแงะฯ หน่วยจึงได้ส่งตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง ๒ ราย ไปดำเนินการซักถามเพิ่มเติม ณ ศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ ๔๖
ซึ่งต่อมา นายลูกมัน (สงวนนามสกุล) ได้ให้การยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ เหตุซุกซ่อนระเบิดแสวงเครื่องในรถยนต์จนเกิดเหตุการณ์ระเบิดที่ชุดคุ้มครองตำบลศาลาใหม่ และยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ายังมีอาวุธปืน, เครื่องกระสุนปืน และสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรง ถูกฝังไว้จำนวนหนึ่ง อยู่ในบริเวณสวนปาล์ม บ้านกลูโฆ (บ.ย่อย บ.ลาแป) หมู่ที่ ๒ ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส
จากนั้นในวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๘ เวลา ๑๐.๐๐ น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ ๔๕ จึงได้จัดกำลังร่วมกับส่วนที่เกี่ยวข้องเขาทำการตรวจสอบบริเวณสวนปาล์มตรงข้ามบ้านของนายลูกมันฯ ณ บ้านกลูโฆ ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ตรวจพบอุปกรณ์เหล็กตัดสั้นคละขนาด บรรจุในขวดพลาสติก จำนวน ๑ ขวด และขวดน้ำมันเบนซิน อีก ๑ ขวด ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน ๑๐ นราธิวาส จึงได้นำวัตถุพยาน ไปตรวจพิสูจน์ต่อไป
และในวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๘ เวลา ๑๐.๐๐ น. จากคำให้การเพิ่มเติมของนายลูกมัน (สงวนนามสกุล) หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ ๔๕ ได้จัดกำลังร่วมกับส่วนที่เกี่ยวข้องเขาทำการตรวจค้น พบถังสีฟ้าฝังไว้ใต้ดิน จำนวน ๑ ลูก ห่างจากจุดที่ ๑ ประมาณ ๓๐๐ เมตร ภายในถังมีสิ่งของบรรจุอยู่ จำนวน ๙ รายการ ประกอบด้วย ๑. ระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน ๑ ลูก ๒. กระสุนปืน ขนาด ๕.๕๖ มม. จำนวนหนึ่ง
๓. กระสุนปืน ขนาด ๗.๖๒ มม. จำนวน ๔๖ นัด ๔. ข้อต่อสายกระสุนปืน ขนาด ๗.๖๒ มม. จำนวนหนึ่ง
๕. ซองกระสุนขนาด ๕.๕๖ มม. บรรจุ ๓๐ นัด จำนวน ๕ ซอง ๖. กระเป๋าใส่ซองกระสุน จำนวน ๓ ซอง
๗. เข็มขัดยุทธวิธี จำนวน ๑ เส้น ๘. สายสะพายปืน จำนวน ๑ เส้น ๙. น้ำมันเครื่อง จำนวน ๑ ขวด
เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมวัตถุพยานทั้งหมดเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ตามกระบวนการ โดยการดำเนินตามกระบวนการขั้นตอนทั้งหมดเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย รวมถึงการรวบรวมพยานหลักฐาน การสอบสวน และการซักถามผู้สงสัย ภายใต้หลักนิติธรรม ความเป็นธรรม และความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย
ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ ๔ / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ โทร ๐๖๑-๑๗๓๒๙๙๙ หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค ๔ สน. ๑๓๔๑ และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๘๙ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๒ ปี หรือปรับไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ