เทคนิคปัตตานี จัดกีฬา สร้างภูมิคุ้มกันเยาวชน เลิกกระท่อมห่างไกลยาเสพติด

เผยแพร่เมื่อ ๑๖/๐๙/๒๐๒๕ ๐๖:๕๔

เทคนิคปัตตานี จัดกีฬา สร้างภูมิคุ้มกันเยาวชน เลิกกระท่อมห่างไกลยาเสพติด

เทคนิคปัตตานี จัดกีฬา สร้างภูมิคุ้มกันเยาวชน เลิกกระท่อมห่างไกลยาเสพติด


ปัญหาการแพร่ระบาดของน้ำกระท่อมยังคงเป็นปัญหาสำคัญในกลุ่มเยาวชนอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่พืชกระท่อมถูกปลดล็อกเป็นพืชเสรี ทำให้เข้าถึงได้ง่าย โดยพบว่าการนำพืชกระท่อมมาใช้เป็นยามีสัดส่วนน้อยมาก ขณะที่ส่วนใหญ่ถูกนำไปต้มและผสมกับสิ่งอื่นจนกลายเป็นเครื่องดื่มที่ก่อให้เกิดอาการมึนเมา ส่งผลให้มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีประชาชนจำนวนไม่น้อยหันมาประกอบอาชีพค้าพืชกระท่อม ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปริมทางในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น ปัตตานี

เพื่อตอบสนองต่อปัญหาดังกล่าว พ.ต.ทวี สอดส่อง รักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ออกนโยบาย ปฏิบัติการ ๑๒๐ วันต้านพืชกระท่อม เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหา ส่งผลให้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ร้านค้าริมถนนที่ขายพืชกระท่อมลดลงเกือบหมด

ขณะเดียวกัน หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและสถาบันการศึกษายังคงดำเนินมาตรการป้องกันและรณรงค์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวิทยาลัยเทคนิคปัตตานี ซึ่งถือเป็นสถาบันขนาดใหญ่ที่มีเยาวชนชายจำนวนมากเข้าศึกษา ทางวิทยาลัยได้ให้ความสำคัญกับการสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิด โดยบูรณาการการเรียนการสอนควบคู่กับการให้ความรู้เรื่องโทษภัยของน้ำกระท่อมในทุกชั่วโมงเรียน

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเสริมสร้างทักษะชีวิตและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เช่น การจัดแข่งขันกีฬาฟุตซอล วอลเลย์บอล ตะกร้อ​ และเปตองในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อดึงเยาวชนให้ห่างไกลจากยาเสพติด ขณะเดียวกันยังมีเสียงสะท้อนจากนักศึกษาที่เคยมีประสบการณ์​ในการดื่มน้ำกระท่อม​ ออกมาเตือนเพื่อนๆว่า​ ควรเลิกให้ได้ตั้งแต่ตอนนี้​ เพราะตนเองเคยประสบปัญหา​สุขภาพ​ ทั้งอุจจาระไม่ออก​ ปัสสาวะ​ติดขัด​ และไตทำงานผิดปกติ​ ซึ่งสร้างความทุกข์​ทรมานเป็นอย่างมาก

นายชยพล สีเสนา นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคปัตตานี เปิดเผยว่า ตนรู้สึกกังวลต่อปัญหาการติดน้ำกระท่อมอย่างมาก เนื่องจากเพิ่งมีข่าวออกมาว่าผู้ที่เสพน้ำกระท่อมและยาเสพติดก่อเหตุเผาบ้าน ทำให้ยิ่งวิตกว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวหรือคนใกล้ชิดของตน

​ ตอนนี้ทางวิทยาลัยได้มีมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการตักเตือน การลงโทษ รวมถึงการจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬา เพื่อให้นักศึกษาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และห่างไกลจากยาเสพติด

นายชยพล​ เผยทิ้งท้ายว่า​ สำหรับเพื่อน ๆ ในวิทยาลัย ตนยังไม่เคยเห็นใครดื่มน้ำกระท่อม แต่ที่พบบ่อยคือการสูบบุหรี่ ซึ่งตนก็มักเตือนอยู่เสมอ หากใครที่ติดน้ำกระท่อมอยู่แล้ว ควรเลิกตั้งแต่ตอนนี้ เพราะมันส่งผลเสียต่อร่างกายมาก

ขณะที่ด้าน​ นายธีรยุทธ ทองหวาน นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคปัตตานี เปิดเผยว่า หลังจากพืชกระท่อมถูกปลดล็อกเสรี ตนรู้สึกว่าเยาวชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และหากใครดื่มเป็นระยะเวลานาน ก็จะส่งผลเสียต่อร่างกาย เช่น ไตทำงานผิดปกติ ระบบย่อยอาหารทำงานไม่ดี และตะกอนของใบกระท่อมอาจไปอุดตันลำไส้ได้

นายธีรยุทธ​ เผยอีกว่า ตนก็เคยดื่มน้ำกระท่อมมาก่อน แต่ปัจจุบันเลิกแล้วหลังเข้ารับการบำบัด ส่งผลให้สุขภาพร่างกายดีขึ้น ทั้งระบบขับถ่ายและการปัสสาวะกลับมาเป็นปกติ ตอนที่ดื่มน้ำกระท่อม ตนรู้สึกเมาและคิดว่าตัวเองทนแดดได้ แต่จริง ๆ แล้วสุขภาพแย่มาก หลังจากเลิกได้ ชีวิตเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน พ่อแม่ก็ดีใจและภูมิใจที่ผมสามารถเลิกได้

นายธีรยุทธ​ เผยทิ้งท้ายว่า​ ตนขอฝากถึงเพื่อน ๆ ว่า อยากให้เลิกเสียตั้งแต่ตอนนี้ เพราะถ้าดื่มต่อเนื่องไปนาน ๆ ร่างกายจะเสื่อมสภาพเร็วมาก และจะส่งผลเสียต่อตัวเองในระยะยาว