สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนที่เพิ่มสูงขึ้นและเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนหลายพื้นที่ จากการเร่งระบายน้ำออกทางฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชนท้ายน้ำและพื้นที่ลุ่มต่ำ
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายเพิ่มสูงขึ้นและล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำและริมแม่น้ำ โดยเฉพาะระดับน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่มีปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสถานี C.๒ จังหวัดนครสวรรค์ อยู่ที่ ๒,๒๒๔ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมกับปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังที่ไหลลงมาสมทบที่อัตรา ๑๐๒ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำบริเวณหน้าเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ ๒,๔๑๔ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเป็นการช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้คงอัตราการระบายที่ ๒,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำออกทางฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากต้องรับปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ประกอบกับ ผลกระทบจากระดับน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนในหลายพื้นที่ของจังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร โดย สทนช. ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ เพื่อลดผลกระทบให้เร็วที่สุด เบื้องต้น กรมชลประทาน ได้เร่งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ๓๒ เครื่อง ทั้ง ๖ จุดในพื้นที่จังหวัดนครปฐมเสร็จเรียบร้อยแล้ว คือ บริเวณประตูระบายน้ำคลองบางพระ // สะพานวัดสำโรง // สะพานรวมเมฆ // สะพานสาย ๘ // สะพานทรงคะนอง และสะพานโพธิ์แก้ว เร่งการระบายน้ำให้ไหลออกสู่อ่าวไทยได้เร็วขึ้น ส่วนกรมเจ้าท่าได้เร่งประสานการเคลื่อนย้ายเรือลำเลียงสินค้าและเรือที่กีดขวางทางน้ำ เพื่อเปิดเส้นทางน้ำให้กว้างขึ้นและเพิ่มความคล่องตัวในการระบายน้ำ ลดผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำให้ได้มากที่สุด
สำหรับแม่น้ำท่าจีน ถือเป็นเส้นทางระบายน้ำสายหลักของแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก มีบทบาทสำคัญต่อการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคกลางก่อนระบายน้ำออกสู่อ่าวไทย ผ่านระบบชลประทานที่เชื่อมโยงกันทั้งลุ่มน้ำ ปัจจุบันยังประสบข้อจำกัดทั้งการระบายน้ำช้าจากภูมิประเทศที่เป็นที่ราบลุ่ม ปัญหาตะกอนทับถมทำให้ลำน้ำตื้นเขิน ความคดเคี้ยวของลำน้ำ รวมถึง ผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนที่จังหวัดสมุทรสาคร ขณะเดียวกันสิ่งปลูกสร้างและการขยายตัวของชุมชนยังกีดขวางเส้นทางน้ำ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงน้ำท่วมในพื้นที่ท้ายน้ำด้วย โดย สทนช. จะติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สามารถบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัยอย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน