ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กำหนดนโยบาย 7 มาตรการเข้มข้น แก้ไขปัญหาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และคนต่างด้าวถูกหลอกลวงหรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และตามที่ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.3 , พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.3 ได้กำชับการปฏิบัติ ให้เป็นไปตามนโยบายดังกล่าวข้างต้น โดยให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม นั้น
ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.เขมชาติ วัฒนนภาเกษม ผกก.ตม.จว.จันทบุรี, พ.ต.ท.ศวัส โชติรณพัส รอง ผกก.ตม.จว.จันทบุรี, พ.ต.ท.นิพนธ์ เรืองสม สว.ตม.จว.จันทบุรี สั่งการให้ เจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปราม ตม.จว.จันทบุรี ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชามาประกอบอาชีพเป็นช่างเสริมสวย บริเวณซอยเทศบาล ๑๖ ต.ปะตง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี จำนวน ๒ ร้าน โดยในวันที่ (๙ ต.ค.๖๘) เวลา ๑๐.๓๐ น. ตม.จว.จันทบุรี ได้บูรณาการร่วมกับ สำนักงานจัดหางานจังหวัดจันทบุรี, ชุดสืบสวน สภ.สอยดาว, ชุดการข่าว ร้อย ตชด.๑๑๔ โดยจัดกำลังเป็น ๒ ชุดปฏิบัติการ ลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง บริเวณซอยเทศบาล ๑๖ ต.ปะตง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ขณะเข้าตรวจสอบร้านที่ ๑ พบบุคคลลักษณะคล้ายคนต่างด้าวจำนวน ๒ คน กำลังประกอบอาชีพเป็นช่างเสริมสวย(ทำผม)ให้กับลูกค้าอยู่ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบเอกสารประจำตัว พบว่าเป็นคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาทั้ง ๒ คน มีหนังสือเดินทาง มีวีซ่าประเภทแรงงานต่างด้าว การอนุญาตยังไม่สิ้นสุด มีใบอนุญาตทำงานประเภทกรรมกร ๑ คน ส่วนอีกคน มีหนังสือเดินทาง มีวีซ่าท่องเที่ยว(ผ.๖๐-ม.๑๗) การอนุญาตยังไม่สิ้นสุด ไม่มีใบอนุญาตทำงาน จากนั้นมีคนไทยมาแสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน/นายจ้าง จึงดำเนินการจับกุมคนไทย ในข้อหา “รับคนต่างด้าวทำงานโดยที่คนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้(งานห้ามคนต่างด้าวทำ)” และจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาทั้ง ๒ คน ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้(งานห้ามคนต่างด้าวทำ)” พร้อมด้วยของกลางที่ใช้ในการประกอบอาชีพช่างเสริมสวยรวม ๓ รายการ ส่วนร้านที่ ๒ ขณะเข้าตรวจสอบพบบุคคลลักษณะคล้ายคนต่างด้าวจำนวน ๑ คน กำลังประกอบอาชีพเป็นช่างเสริมสวย (ทำเล็บ)ให้กับลูกค้าอยู่ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบเอกสารประจำตัว พบว่าเป็นคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา มีหนังสือเดินทาง มีวีซ่าท่องเที่ยว(ผ.๖๐-ม.๑๗) การอนุญาตยังไม่สิ้นสุด ไม่มีใบอนุญาตทำงาน จึงดำเนินการจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ (งานห้ามคนต่างด้าวทำ)” พร้อมด้วยของกลางที่ใช้ในการประกอบอาชีพช่างเสริมสวยรวม ๓ รายการ จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ถูกจับกุมทั้งหมด ทำบันทึกการจับกุม นำตัวส่ง สภ.สอยดาว ดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.๓ , พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.๓ ได้สั่งการกำชับให้ ตม.จว.จันทบุรี ดำเนินการเฝ้าระวังและติดตามปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างเคร่งครัด ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยง เพิ่มความเข้มงวดกวดขันและตรวจสอบคนต่างด้าวที่จะลักลอบหลบหนีเข้ามาในประเทศเพื่อเข้ามาประกอบอาชีพโดยผิดกฎหมายหรือแย่งอาชีพคนไทย โดยเน้นย้ำนโยบายในการป้องกันปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ กวาดล้างคนต่างด้าวผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ควบคู่ไปกับการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่เพื่อการดำเนินชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขของคนในจังหวัดต่อไป
✍️ สำนักข่าวไทเกอร์นิวส์ รายงาน