วันนี้ (๑๕ ก.ย.๖๘) นายถาวร เทพสุวรรณ พัฒนาการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดนราธิวาส ได้กำหนดจัดงานของดีเมืองนรา ครั้งที่ ๔๘ ประจำปี ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๘ ที่บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบ พระชนมพรรษา หรือ สวน ร.๕ อำเภอเมืองนราธิวาส โดยกองงานศิลปาชีพและงานกระจูด เป็น ๑ ใน ๕ กองงานหลัก ปีนี้ (๒๕๖๘) จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ ศิลปาชีพ นรารวมใจ ก้าวไกล ด้วยพระบารมี (สืบสาน รักษา ต่อยอด ศิลปาชีพนราธิวาส) เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตลอดจนเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพของจังหวัดนราธิวาสที่มีความงดงามและทรงคุณค่า
ภายในกองงานฯ ประกอบด้วยกิจกรรม ดังนี้ นิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการศิลปาชีพและงานกระจูด กิจกรรมการสาธิตผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพ ๘ ประเภท //การฝึกอาชีพระยะสั้นในหลักสูตรปักผ้าเชิงสร้างสรรค์ จักสานย่านลิเภา วาดลายเรือกอและ และบาติก //นอกจากนี้ ยังมีการประกวดและแข่งขันผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพ แบ่งเป็นการแข่งขันสานเสื่อกระจูด และการประกวดผลิตภัณฑ์ผ้าทอนราธิวาส ซองกระจูด กล่องใบลาน ย่านลิเภา เรือกอและจำลอง ตูมูปาหนัน และเสื่อปาหนัน//โดยผู้ชนะเลิศการประกวดและแข่งขัน จะเข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานรางวัล จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันพรุ่งนี้ (๑๖ ก.ย.๖๘)
สำหรับโครงการศิลปาชีพจังหวัดนราธิวาส นับตั้งแต่ปี ๒๕๑๖ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ได้เสด็จแปรพระราชฐานประทับแรม ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เพื่อทรงเยี่ยมเยียนราษฎร ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสและจังหวัดใกล้เคียง ทรงพบเห็นราษฎรประสบปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อนมากมาย เช่น ด้านโรคภัยไข้เจ็บ ด้านการศึกษา การประกอบอาชีพ เป็นต้น จึงมีพระราชดำริที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงพระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเกี่ยวกับการจัดหาแหล่งน้ำชลประทาน เพื่อส่งเสริมอาชีพทางเกษตรกรรม ซึ่งเป็นอาชีพหลักของจังหวัดนราธิวาส นอกจากนี้พระองค์ทรงดปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานความช่วยเหลือแก่ครอบครัวราษฎรที่มีฐานะยากจน โดยพระราชทานกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ภายใต้ชื่อ ศิลปาชีพ เพื่อเกิดเป็นอาชีพเสริมในยามว่าง ได้มีงานทำและมีรายได้ที่แน่นอน และยังสามารถอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยและวัตถุดิบในท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไป