กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศขึ้นทะเบียนซากดึกดำบรรพ์หอยขมเหมืองแม่เมาะ จ.ลำปาง อายุประมาณ ๑๓ ล้านปี เป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่ ๒๗ ของประเทศ
นายชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ ครั้งที่ ๒ เพื่อรับทราบสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารกองทุนจัดการซากดึกดำบรรพ์ โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ขึ้นทะเบียนแหล่งซากดึกดำบรรพ์หอยขมเหมืองแม่เมาะ จังหวัดลำปาง พื้นที่ ๕๒ ไร่ เป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่ ๒๗ ของประเทศไทย ตามมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ถือเป็นก้าวสำคัญในการอนุรักษ์และบริหารจัดการมรดกทางธรณีวิทยาของชาติอย่างยั่งยืน สำหรับแหล่งซากดึกดำบรรพ์หอยขมแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง เป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่มีอายุประมาณ ๑๓ ล้านปี ช่วงเวลาดังกล่าวแอ่งแม่เมาะเป็นแอ่งทะเลสาบน้ำจืดอยู่ในภูมิอากาศแบบเขตร้อน รอบแอ่งเป็นป่าไม้เขตร้อน ชายฝั่งมีต้นกกขึ้นโดยทั่วไปในลักษณะป่าพรุ หอยขมอาศัยอยู่ตามชายฝั่ง มีลักษณะเป็นชุมชนหนาแน่น การล้มตายตามธรรมชาติรุ่นแล้วรุ่นเล่า ก่อให้เกิดการสะสมตัวของซากเปลือกหอยเป็นชั้นๆอย่างต่อเนื่อง จนทำให้กลายเป็นชั้นเปลือกหอยหนา โดยมีความหนาของชั้นหอยตั้งแต่ ๓-๑๒ เมตร หรือเฉลี่ยประมาณ ๘ เมตร สำหรับพื้นที่ค้นพบดังกล่าวเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ ซึ่งอนุญาตให้ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทำเหมืองแร่เมื่อปี ๒๕๔๖ ขณะที่ขุดตักถ่านหินขึ้นมาใช้ได้พบชั้นสะสมตัวของซากหอยขมน้ำจืดจำนวนมากมหาศาล กฟผ. จึงร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี สำรวจรายละเอียดทางธรณีวิทยา จากนั้นได้กันพื้นที่ออกเพื่อทำการอนุรักษ์และพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิชาการของประเทศ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในจังหวัดลำปางต่อไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ ยังได้พิจารณาแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ และกรรมการในคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนจัดการซากดึกดำบรรพ์ ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ รวมทั้ง ได้เห็นชอบ (ร่าง) แผนพัฒนาเชิงบูรณาการพื้นที่แหล่งซากดึกดำบรรพ์สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเขาน้อย อำเภอละงู จังหวัดสตูล (ร่าง) แผนพัฒนาเชิงบูรณาการพื้นที่แหล่งซากดึกดำบรรพ์หอยขมเหมืองแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง พร้อมให้นำข้อเสนอแนะคณะกรรมการฯ และผู้ทรงคุณวุฒิไปประกอบการพิจารณาปรับแผนการดำเนินงานเพื่อให้สมบูรณ์ขึ้น